hehe
บ้านหัวมุม-ซอยตันร้ายจริงหรือ?

บ้านหัวมุม-ซอยตันร้ายจริงหรือ?

ในตำราฮวงจุ้ยส่วนใหญ่มักกล่าวไว้ตรงกันว่า การอยู่อาศัยในบ้าน ที่อยู่ตรงกับหัวมุมถนนและบ้านซอยตันจะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้านหลังนั้นมักอับโชค อยู่แล้วไม่เจริญรุ่งเรือง แต่ไม่ค่อยมีตำราฮวงจุ้ยเล่มไหนให้ความจริงได้กระจ่างแจ้งนัก มี แต่เขาเล่าว่า เชื่อตามๆกันมาทั้งนั้น 
 

 

 

 

 

 

หากพิสูจน์ด้วยหลักวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูงแล้ว พบว่ามีเหมือนกันที่บ้านบางหลังอยู่ตรงหัวมุม เป็นบ้านซอยตัน บ้านสุดซอย แต่กลับอยู่อาศัยแล้วยิ่งรุ่งเรือง ตรงนี้ผู้เขียนเคยเจอมากับตัวเองและพยายามที่จะหาคำตอบให้ได้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ในที่สุดก็ถึงบางอ้อจนได้ว่า ปัจจัยที่ทำให้บ้านที่อยู่ตรงหัวมุม ทางสามแพร่ง ซอยตัน บ้านสุดซอย ยิ่งอยู่ยิ่งเจริญรุ่งเรืองนั้นเกิดจากพลังงานของดาวประจำยุค ซึ่งจะเคลื่อนย้ายตำแหน่งทุกๆ 20 ปี ส่งพลังงานดีๆเข้ามากระตุ้นในทิศนั้น

ดังนั้น หากมองภาพให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ ต้องดูว่าตำแหน่งของบ้านที่อยู่ตรงหัวมุม ซอยตัน สุดซอย อยู่ในทิศทางใด ใน 20 ปีนั้นทิศทางดังกล่าวมีพลังงานที่ดีๆเข้ามากระตุ้นหรือไม่

หากอ่านให้ดีๆจะพบว่าในตำราฮวงจุ้ยส่วนใหญ่มักกล่าวเรื่องบ้านหัวมุม บ้านซอยตัน บ้านสุดซอยในมุมร้ายๆโดยไม่มีทางแก้ไขอื่นใดนอกจากต้องติดกระจกยันต์แปดทิศ-โป๊ยข่วย สิงห์คาบดาบ กระจกนูนที่เขียนคำว่าฮกกลับหัวอักษรลง ซึ่งมีความหมายว่าดี ผู้เขียนมองว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะหากตำแหน่งที่ตรงนั้นไม่มีดวง หมายถึงเป็นจุดชุมนุมพลังดาวร้ายๆ หรือตั้งอยู่ในมุมเสียทางฮวงจุ้ย เช่น มุมโทษภัย อสูรร้าย ทิศห้าผี ทิศสูญสิ้นแล้ว ก็ต้องปรับพลัง งานภายในสถานที่ช่วย

อันที่จริงบ้านที่อยู่สุดที่ของบ้านจัดสรรหากมองให้ดีๆแล้วผู้เขียนมองว่าได้รับประโยชน์แม้ว่าราคาจะแพงสักหน่อย แต่ตรงนั้นก็สามารถสร้างสวนสวยๆให้รับพลังที่ดีๆได้ เพียงแต่บ้านสุดที่หรือซอยตันมีเรื่องที่ต้องระวังคือ ตำแหน่งของประตูทางเข้าต้องปรับให้ได้พลังองศาที่ดีเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องปรับอะไรอื่นนอกจากนี้

หากจะให้ปรับเรื่องพลังงานอีกก็อาจหากระถางอ่างน้ำล้นมาตั้ง บริเวณรอบๆกระถางอ่างน้ำล้นให้ยกพื้นสูงขึ้น ข้างบนวางกระถางอ่างน้ำล้น-น้ำริน รอบๆปลูกต้นไม้ใบที่มีสีสันสดใสตัดกัน ใช้พลังสีเข้ามาช่วยก็สามารถดึงดูดพลังที่ดีๆให้เข้ามาสู่บ้านที่อยู่อาศัยได้

เช่นเดียวกับบ้านที่อยู่ตรงกับหัวมุมหรือตรงจุดที่มีทางพุ่งตรงเข้ามา ตรงนี้หัวมุมอาจต้องระวังอย่าทำประตูเล็กเข้าออกทางทิศนี้ แม้ประตูเล็กก็มีผล อาจปรับแต่งบริเวณดังกล่าวให้เป็นสวนแทนจะดีกว่า และห้ามติดระฆังลมโมบายในมุมทิศดังกล่าว โบราณเชื่อว่าบ้านที่อยู่ตรงกับหัวมุมหรือทางแยก ทางที่พุ่งตรงมานั้นมีโอกาสสูงที่จะตรงเข้ากับประตูผีอันเป็นประตูที่เชื่อมโยงกับประตูโลกวิญญาณ การติดระฆังลมโมบายไว้ทิศดังกล่าวจึงเป็น การเชิญชวนให้วิญญาณร้ายเข้ามาสู่บ้านโดยที่คุณไม่รู้ตัวก็เป็นได้

ถ้าจะให้ดีมากขึ้นคือ ให้ทากำแพงรั้วให้มีสีสันสดใสสังเกตได้ง่าย หรือติดไฟส่องสว่างในมุมทางที่พุ่งมานั้น หรือจะให้ดีมากขึ้นคือ อย่าทำรั้วทึบ ให้ทำโปร่งๆเข้าไว้ ยิ่งถ้าปรับบริเวณหัวมุมให้เป็นพื้นที่สวน มีน้ำผุดน้ำล้นด้วยก็จะดึงดูดพลังที่ดีๆให้เข้ามา แต่มีข้อแม้ว่าน้ำนั้นต้องคอยเปลี่ยนบ่อยๆอย่าให้ตะไคร่เกาะ เพราะจะกลายเป็นดึงความอับโชคเข้ามาแทนที่

หากว่ากันตามหลักฮวงจุ้ยจะพบว่าบ้านที่อยู่สุดซอยหรือหัวมุมถนน หากหันหน้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หลังอิงทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้วยแล้ว ตำแหน่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือควรเป็นตำแหน่งที่เปิดโล่งหรือทางเข้า ส่วนตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นทิศที่ห้ามกระตุ้น ยิ่งหากกระตุ้นพลังงานผิดทิศไปสร้างประตูทางเข้าในทิศตะวันตกเฉียงใต้ด้วยแล้ว จะทำให้ 20 ปีนี้บ้านที่มีชัยภูมิทางทิศดังกล่าวจะกลายเป็นบ้านอับโชค อยู่แล้วไม่เจริญรุ่งเรือง

ในขณะที่บ้านของใครที่สร้างระหว่างปี 2527-2547 ซึ่งหันหน้าทางทิศตะวันออก หลังอิงทิศตะวันตก หากมุมที่อยู่ในทิศตะวันออก ทิศทางดังกล่าวก็พึงระวังหากเป็นจุดทางเข้าออก ถ้าเป็นอยู่ให้ย้ายจุดทางเข้าไปตั้งในตำแหน่งใหม่ที่สมควรดีกว่า เพราะตั้งแต่ดาวฮวงจุ้ยยุคที่ 7 เข้ามาพลังร้ายๆดูเหมือนจะมีเข้ามาโดยตลอด และเชื่อว่าบ้านที่หันหน้าทางทิศตะวันออก หลังอิงทิศตะวันตกหลายๆหลังคงจะกลายเป็นบ้านร้างหรือไม่ค่อยมีคนอยู่อาศัย

วิธีแก้ไขให้เกิดพลังงานที่ดีขึ้นคือ การใช้ตำแหน่งน้ำเข้ามาปรับแก้ ใช้น้ำรินน้ำล้นวางทางทิศดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้เคราะห์ร้ายกลับกลายเป็นดีได้


ขอขอบคุณที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ (โดย..ซินแสทวิณัฐ คำพันธ์ )